วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เริ่มคณนาตั้งแต่ก้าวย่างเข้าสู่วันรุ่งปีใหม่ของชาวจีน




ปีชง 2556 เริ่มตวงตั้งแต่สาวก้าวเข้าสู่วันรุ่งโรจน์ปีใหม่ของชาวจีน


ปีชง 2556 เริ่มนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน หรือวันตรุษจีน 2556 ดูดวงปี2556 คนที่มีปีเกิดตรงกับ ปีชง 2556 และ ควรแก้ ปีชง 2556 ไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย คือ คนที่เกิดในปี นักษัตร 4 ปีนี้




 


ปีชงเสริมดวงปี2556




 




- คนเกิดปีกุน (ปีหมู) เป็น ปีชง 2556 เป็นปีปะทะ ปีชง 100%


คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คนที่เกิด ปี2490(อายุ 66ปี) ปี2514(อายุ 42ปี) ปี2550(อายุ 6ปี)


- คนเกิดปีมะเส็ง (ปีงูเล็ก) เป็น ปีชง 2556 เป็นปีทับไท้ส่วย และเป็น คัก กับปีมะเส็ง


คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คนที่เกิด ปี2472(อายุ 84ปี) ปี2532(อายุ 24ปี)


- คนเกิดปีขาล (ปีเสือ) ปีชง 2556 ปีร่วมชงไท้ส่วย เป็นปี เฮ้ง หรือปีเบียดเบียน และเป็นปี ไห่ คือปีให้ร้าย กับปีมะเส็ง


คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คนที่เกิด ปี2481(อายุ 75ปี) ปี2505(อายุ 51ปี) ปี2541(อายุ 15ปี)


- คนเกิดปีวอก (ปีลิง) เป็น ปีชง 2556 ปีร่วมชงไท้ส่วย เป็นปี ผั่ว หรือ ปีแตกแยก


คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คนที่เกิด ปี2463(อายุ 93ปี) ปี2523(อายุ 33ปี)




ดวงในปี 2556 นี้เป็นปีมะเส็ง หรือ มะเส็งเล่นน้ำ 


องค์ไท้ส่วยที่รับหน้าที่เฝ้าดูแลในปีพ.ศ. 2556 นี้ ปีมะเส็ง ตามปีใน 12 


นักษัตร มีพระนามว่าขุนพลฉื่อตัวไต่เจียงกุง (สีตันต้าเจียงจวิน) 


เทพคุ้มครองดวงชาตาประจำปี พ.ศ. 2496, 2556, 2616 


ตามความเชื่อโบราณเชื่อว่า 


พระองค์สามารถบันดาลสุขหรือทุกข์ให้เกิดกับใครคนใดก็ได้ทั้งนั้น 


และผู้ที่เกิดในปีชงควรไปกราบไหว้บูชาหรือทำการแก้เคล็ด 


เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการดำรงชีวิตและเพื่อให้รอดพ้นจากอิทธิพลร้ายใน


ช่วงปี 2556 คือ ผู้ที่เกิดปีกุน ปีมะเส็ง ปีขาล และ ปีวอก ค่ะ


การสักการะเทพเจ้า


การกราบไหว้สักการะเทพเจ้าและสิ่งมงคลทั้งหลายที่จะให้ช่วยปกป้องคุ้ม


ครองช่วยเหลือนั้นต่างก็มีพิธีกรรมซึ่งแตกต่างกัน 


จุดนี้จะขอกล่าวถึงการสักการะเทพเจ้า เพื่อคุ้มครองและปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย 


ในรอบปีนี้ให้เกิดความเป็นศิริมงคลสูงสุด เพราะอิทธิพลของปีมะเส็ง 


จะข่มดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีชงอย่างรุนแรง ทำให้เกิดอุปสรรคและปัญหาในทุก ๆ


 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการงาน การเงิน ความรัก 


ที่จะได้รับผลกระทบหนักมากที่สุดในปีนี้ คือเรื่องหน้าที่การงาน 


และสุขภาพปัญหาใหญ่ของตัวเอง และญาติผู้ใหญ่


ถึงแม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่นักษัตรปะทะกับปีเกิด 


ก็ยังมีวิธีคานอำนาจทอนกำลังในช่วงปีใหม่ 


จำเป็นต้องนำดวงชะตาไปฝากเอาไว้กับองค์ เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย 


เพื่อช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่เป็นมงคล ให้ไหว้ที่ศาลเจ้าควร 


เติมน้ำมันตะเกียง ปล่อยนก ปล่อยปลา เพื่อสะเดาะเคราะห์ 


และปล่อยเต่าเพื่อต่อดวงชะตา ในปี 2556


 นี้ ถ้าไม่จำเป็นอย่าไปงานศพ ไม่ควรไปร่วมพิธีฝังศพ เผา หรือส่งศพ 


จะเป็นการชักนำสิ่งไม่เป็นมงคลมาสู่ตัวเอง 


ถ้าจะเสริมบารมีตัวเองและแก้ไขเรื่องคดีความทำเพื่อการแก้สิ่งไม่ดี


1. ไหว้พระแก้วมรกต เน้นไปวันศุกร์


2. ถวายสังคทาน 9 ถัง และถวายพระ พระประจำวันศุกร์


3. ไถ่ชีวิตโคกระบือ


4. เติมน้ำมันตะเกียง










 


เช็คดวงรายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน  คลิก!




ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :: เช็คดวงปี 2556 คลิก!


                      



ดูดวง การงาน เงิน ดูดวงความรัก ดูดวงรายวัน ทำนายฝัน ดูดวงไพ่ยิปซี กราฟชีวิต
ทุกๆเรื่องที่คุณอยากรู้
 http://horoscope.sanook.com



ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook..ได้ที่นี่เลย!! www.facebook.com/sanookhoroscope













ผู้สนับสนุนหลัก:  แหล่งรวมผลิตภัณฑ์ ดูแล "ผิวขาว" เปล่งประกายออร่า : www.chivabeauty.com
สปาผิวขาว คอร์สผิวขาว คอร์สเจ้าสาว ดูแลผิวเองได้แล้วที่บ้าน 
ครีมหน้าใส ผิวขาว สำหรับเตรียมพร้อมผิวก่อนเป็นดารา นักร้อง นักแสดง  www.chivabeauty.com 

ติดตามอัพเดตผลิตภัณฑ์สำหรับผิวสวยของคุณได้ ตลอด 24 hr ผ่านทาง facebook fanpage 
facebook : http://www.facebook.com/chivabeautyshop 

"ครีมหน้าใส" อื่นๆ :ครีมนมข้าวครีมน้ำนมข้าวครีมกันแดดซิลิโคนครีมหน้าใสเซรั่ม ขาว ใส ยกกระชับครีมตัวขาวครีม เซรั่ม ใต้ตาเจล หน้าใส ยกกระชับ ปรับผิวขาวสบู่หน้าใสครีม เซรั่ม เจล ลดสิวบรรจุภัณฑ์สติกเกอร์ โลโก้ ครีมหน้าใสผิวขาว , ครีมหน้าขาว , ครีมนมผึ้งครีมน้ำนมผึ้งครีมสาหร่าย



กด Link(ถูกใจ) หน้า page ครีมสาหร่าย สีเข้ม สอบถามอัพเดตข่าวสาร ได้ที่ หน้า page นี้เลยนะค่ะ





พริตตี้ มอเตอร์โชว์ 2012 ----> ผู้สนับสนุนครีมสาหร่าย ครีมหน้าใส  


วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

10 ที่สุดรถแพงในงาน Motor Expo 2012 ... แกอาจไม่เชื่อว่าพวกมันมามอเตอร์โชว์






 


10 ที่มากรถแพงภายในงาน Motor Expo 2012 ... คุณอาจไม่เชื่อว่าพวกมันมามอเตอร์โชว์





เคาะระฆังเริ่มไปเกือบสัปดาห์แล้วสำหรับงานแสดงรถยนต์รายการใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก OICA กับงานมอเตอร์โชว์ 2012 ซึ่งกำลังจะปิดฉากลงในวันที่ เมษายนนี้  Motor Expo 2012



งานนี้เมื่อได้ชื่อว่าเป็นงานแสดงรถยนต์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีค่ายรถยนต์หลายเจ้าเข้าร่วมงาน โดยเฉพาะ รถยนต์จากค่ายหรูขั้นเทพทั้งหลาย ที่งานนี้ขนรถแพงมาเยี่ยมเรากันถึงเมืองไทย ที่เราจับ 10 คันที่แพงสุดมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันเต็มตา



 รถหรูมอเตอร์โชว์ 2012



Motor Expo 2012 อันดับ 10 Jarguar XJ






ราคาจิ๊บๆ สำหรับเศรษฐี เริ่มต้นที่ตัวเลข 12.2 ล้านบาท สำหรับ ยานยนต์สัญชาติอังกฤษคันนี้ ที่พกความหรูหรามาแบบเต็มคราบ กับความงามที่ยากจะหาใครเทียบเคียง แม้จะงานขนาดนี้แต่ก็แรงใช่เล่นกับ เครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร ให้กำลัง 385 แรงม้า จับคู่ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด






Motor Expo 2012 อันดับที่ 9 Lexus LS 460






ขยับขึ้นมาเป็นค่ายพรีเมี่ยมแบรนด์จากรถยนต์คนไทยชอบ นำเสนอรถยนต์ Lexus 460 มาให้เราได้สัมผัสกัน ในเส้นสายความปราณีตที่หาที่สุดไม่ได้ไฟหน้ามาพร้อมไฟแบบ LED 8 ดวง ใต้ฝากระโปรง เน้นหนักในเรื่องของความแรงแบบเปี่ยมสมรรถนะจากเครื่องยนต์ V8 4.6 ลิตรให้กำลังสูงสุด 380 แรงม้า เร่ง 0-100 ก.ม./ ช.ม. ทันใจเพียง 5.7 วินาที ส่วนเรื่องความหรูหายห่วงเพราะนี่เป็นรุ่นใหญ่ของค่าย เคาะราคาขายแค่ 12.8 ล้านบาท



 รถหรูมอเตอร์โชว์ 2012



อันดับที่ 8 Porsche 911 Carrera S 






จากหรูมาดูสปอร์ตกันบ้างกับค่ายรถยนต์ชั้นนำ อีกหนึ่งที่มาพร้อมการนำสเนอสมรรถนะระดับซุปเปอร์ ที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน กับเอกลักษณ์ หน้ากบของค่ายรถยนต์ Porsche ที่จัดการยกเครื่องตั้งแต่โครงสร้างอลูมิเนียมใหม่ ให้เบาหวิวบวกระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 100 ม.ม. และยังลู่ลมด้วยค่าสัมประสิทธิเสียดทานเพียง 0.29 Cd แต่ที่ขับสนุกจริงเป็นเครื่องยนต์แบบ Flat 6 3.8 ลิตร ให้กำลัง 400 แรงม้า เร่งสะใจ 0-100 ก.ม./ช.ม. ใน เวลาเพียง 3.9 วินาที ส่วนราคาก็แรงพอกับความเร็ว จัดไป 16 ล้านบาทเท่านั้น






Motor Expo 2012 อันดับที่ 7 Bentley Continental GT






ชื่อนี้เรียกว่าทั้งหรูและแรง สำหรับรถยนต์ Bentley รถจากแดนผู้ดีที่ระห่ำได้ใจจากเวอร์ชั่นหรู สู่เวอร์ชั่นทั้งหรูและแรงกว่าทั่วไป พกเครื่องยนต์ V8 ให้กำลัง 500 แรงม้า พร้อมทะยานความหรูแบบสะใจ จนซุปเปอร์คาร์ต้องเหลียวหลังกับตัวเลข 0-100 ก.ม./ช.ม. ใน 5 วินาทีกว่า ความเร็วปลายก็ทำได้ดีไม่แพ้กันถ้ากล้าเหยีบก็ทำได้ 290 ก.ม./ช.ม. แต่ที่พูดมาทั้งหมดนี้คุณต้องจ่ายราคา 18.9 ล้านบาทเป็นค่าตัว






Motor Expo 2012 อันดับที่ 6 Lamborghini Gallardo LP560- Spider






เจ้ากระทิงดุค่ายรถยนต์ซุปเปอร์คาร์เป็นที่รู้จักกันดีเริ่มต้นด้วยอันดับ6 ในการรับลมชมวิวแบบสปอร์ตพันธุ์แท้ในสไตล์ Spyder ที่คัดสรรวัสดุเกรดดี เรียกว่าไม่ต้องบรรยายสรรพคุณความแรง ส่วนเจ้าตัวนี้ทำความเร็วสูงสุดได้ 325 ก.ม./ช.ม. มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมพลัง 560 แรงม้า แต่ราคาก็แรงตามรถ เคาะขายที่ 23.5 ล้านบาท






รถหรูมอเตอร์โชว์ 2012



อันดับที่ 5 Lamborghini Gallardo LP 570-4 Superleggera






กระทิงดุอีกคันจากงานมอเตอร์โชว์ 2012 ที่ค่ายรถยนต์เจ้านี้ภูมิใจนำเสนอความแรงเต็มพิกัด กับ 570 แรงม้า ที่ฟังดูไม่ต่างจากอันดับที่ 6 ของเรา แต่ มันเจ๋งกว่า เมื่อคุณรู้ว่าพลังทั้งหมดของมันแบกน้ำหนักเพียง 1340 ก.ก. ทำตัวเลข 0-100 ก.ม./ช.ม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที แต่ราคาก็อัพไปอีก ถ้าอยากได้หยอดกระปุกเอาไว้ให้ได้ 25.5 ล้านบาทแล้วมาว่ากันอีกที






Motor Expo 2012 อันดับที่ 4 Rolls-Royce Ghost Extended Wheelbase






ในที่สุดมันก็มาโผล่ที่ไทย สำหรับค่ายถยนต์พันธุ์หรูตัวจริงเสียงจริงในนาม Rolls-Royceแม้แต่เศรษฐีกระเป๋าตุง อาเสี่ยกระเป๋าหนักยังมีร้องจ้าก!! เมื่อเจอราคา โดยในรุ่นนี้ที่ภูมิใจนำเสนอ มันมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ V12 ขนาด 6.6 ลิตร ปั่นฝีเท้าด้วยเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 563 แรงม้า และขับสนุกด้วยเกียร์อัตโนมัติ ZF 8สปีด เคาะราคาจนตัวคุณเบาหวิวเมื่อควักเงินจ่ายที่ 27.9 ล้านบาท






Motor Expo 2012 อันดับที่ 3 Bentley Mulsanne 2012






อีกคันจากค่ายรถยนต์ Bentley ให้ความหรูหราระดับที่คุณต้องประทับใจ แต่ความประทับใจนี้ต้องใช้เงินถึง 33.6 ล้านบาท จึงจะได้สัมผัส พระราชวังที่สามารถเคลื่อนที่ได้ ประณีตสุดๆในการออกแบบ และการเลือกวัสดุชั้นดี โดยทั้งหมดไม่ได้เน้นเรื่องแรงมาก แต่ก็จัดขุมพลัง V8 6.8 ลิตร ให้กำลัง 505 แรงม้า พร้อมอภิมหาแรงบิด 1,020 นิวตันเมตร และแม้รถคันนี้ จะหรูหราแต่ความเร็วปลายก็ยังซิ่งได้ถึง 296 ก.ม./ช.ม.



 รถหรูมอเตอร์โชว์ 2012



Motor Expo 2012 อันดับที่ 2 Lamborghini Aventador LP700-4






เป็นที่ฮากันทั้งโลกไซเบอร์กับชื่อรถคันนี้ ที่มีฝรั่ง แกะคำของค่ายกระทิงดุว่า A Vent และ A door กลายมาเป็นชื่อของรถคันนี้ จริงๆนั่นก็เป็นมุกตลกขำๆ แต่จะไม่ขำ ถ้าคุณจะซื้อรถคันนี้ที่มีราคาค่าตัวกว่า 36.5 ล้านบาท แรงสั่งได้จากเครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตร 700 แรงม้า ขับสนุกด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เร่งแรงถึงใจ 0-100 ก.ม. ใน 2.9 วินาที และทำความเร็วสุงสุด 350 ก.ม./ช.ม.






 Motor Expo 2012 อันดับที่ 1 Rolls-Royce Phatom Drophead Coupe






รถหรูสำหรับท่านผู้นำก็ต้องคันนี้ ที่ไม่รู้ท่านผู้นำเราได้ไปเหมามาเข้าคอลเลคชั่นหรูรึปล่า แต่รถคันนี้คือที่สุดแห่งที่สุดความหรู และแพงในงานมอเตอร์โชว์ 2012 ด้วยราคา 37.9 ล้านบาท มาในแบบรถคูเป้อาจดูเหมือนสปอร์ต แต่ที่นั่งแบบ 2 +2 มาพร้อม 4ประตู ที่ใต้ฝากระโปรงพกเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.75 ลิตร ตอบสนองกำลังสูงสุด 453 แรงม้า ให้แรงบิด 720 นิวตันเมตร เร่ง 0-100 ใน 6 วินาที ฟังดูมันอาจจะไม่แรงนัก แต่ถ้าเรื่องหรู คงต้องยกให้ไปเลย






ยังไงเราเชื่อว่า รถเหล่านี้ เราหลายคนอาจจะได้แค่ยลโฉมกัน แต่อย่างน้อย ในงานมอเตอร์โชว์2012 เราก็ได้รู้ว่าค่ายรถยนต์หรูๆ ก็เห็นคนไทยอยู่ในสายตา ในฐานะ Detroit of Asia











ผู้สนับสนุนหลัก:  แหล่งรวมผลิตภัณฑ์ ดูแล "ผิวขาว" เปล่งประกายออร่า : www.chivabeauty.com
สปาผิวขาว คอร์สผิวขาว คอร์สเจ้าสาว ดูแลผิวเองได้แล้วที่บ้าน 
ครีมหน้าใส ผิวขาว สำหรับเตรียมพร้อมผิวก่อนเป็นดารา นักร้อง นักแสดง  www.chivabeauty.com 

ติดตามอัพเดตผลิตภัณฑ์สำหรับผิวสวยของคุณได้ ตลอด 24 hr ผ่านทาง facebook fanpage 
facebook : http://www.facebook.com/chivabeautyshop 

"ครีมหน้าใส" อื่นๆ :ครีมนมข้าวครีมน้ำนมข้าวครีมกันแดดซิลิโคนครีมหน้าใสเซรั่ม ขาว ใส ยกกระชับครีมตัวขาวครีม เซรั่ม ใต้ตาเจล หน้าใส ยกกระชับ ปรับผิวขาวสบู่หน้าใสครีม เซรั่ม เจล ลดสิวบรรจุภัณฑ์สติกเกอร์ โลโก้ ครีมหน้าใสผิวขาว , ครีมหน้าขาว , ครีมนมผึ้งครีมน้ำนมผึ้งครีมสาหร่าย



กด Link(ถูกใจ) หน้า page ครีมสาหร่าย สีเข้ม สอบถามอัพเดตข่าวสาร ได้ที่ หน้า page นี้เลยนะค่ะ





พริตตี้ มอเตอร์โชว์ 2012 ----> ผู้สนับสนุนครีมสาหร่าย ครีมหน้าใส  





 

วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

จับรวม กลอนวันพ่อ วันพ่อ วันพ่อแห่งชาติ




รวบรวม กลอนวันพ่อ วันพ่อ วันพ่อแห่งชาติ



วันพ่อแห่งชาติ ประวัติวันพ่อแห่งชาติ จัดให้มีขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2523 โดย คุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา เป็นผู้ริเริ่มจัดงานวันพ่อแห่งชาติขึ้น ด้วยความจงรักภักดี และมีวัตถุประสงค์ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือในหลวงของประชาชนชาวไทย ในฐานะ "พ่อแห่งชาติ" และ "พ่อของแผ่นดิน" ในประเทศไทย ได้กำหนดให้ วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันพ่อแห่งชาติ 


        ซึ่งนอกจากพระองค์จะเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงทะนุบำรุงพระราชโอรสธิดาด้วยความรัก และทรงอบรมอนุศาสน์ให้ทรงเจริญวัยสมบูรณ์ และทรงบำเพ็ญคุณานุประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทแล้ว พระองค์ยังทรงพระมหากรุณาทะนุบำรุงจัดทุกข์ผดุงสุขพสกนิกรถ้วนหน้า พระองค์ทรงเป็น “พ่อแห่งชาติ” ที่อาณาประชาราษฎร์เทิดทูนด้วยความจงรักภักดี สำนักในพระมหากรุณาธิคุณ และยึดมั่นในการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในการทะนุบำรุงชาติบ้านเมืองให้ วัฒนาถาวรสืบไป





วันพ่อแห่งชาติ (5 ธันวาคม)




วัตถุประสงค์ของการจัดงานวันพ่อแห่งชาติ ที่คณะผู้ริเริ่มกำหนดคือ วันพ่อแห่งชาติ



  • เพื่อเทิดทูนพระเกียรติคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

  • เพื่อเทิดทูนพระคุณของพ่อ และยกย่องบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัวและสังคม

  • เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ

  • เพื่อให้ผู้เป็นพ่อ สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน






    ในการนี้คณะกรรมการได้จัดกิจกรรมประกาศเกียรติคุณ พ่อตัวอย่าง หรือพ่อดีเด่น ในทุกๆปี โดยมีการกำหนดคุณสมบัติของพ่อดีเด่นดังนี้


    คุณสมบัติของพ่อตัวอย่าง หรือพ่อดีเด่น วันพ่อแห่งชาติ




    นอกจากนั้นทางคณะกรรมการ ยังได้แนะนำ กิจกรรมสำหรับลูกในวันพ่อ คือ


    • ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน

    • จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะ หรือบำเพ็ญกุศลเพื่อส่วนรวม

    • ทำบุญใส่บาตร เพื่ออุทิศส่วนกุศล และระลึกถึงพระคุณของพ่อ ซึ่งยังดำเนินการสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน





    ในวัน ที่ 5 ธันวาคมมหาราช นอกจากจะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย เดช และเป็นวันพ่อแห่งชาติแล้ว ยังถือว่าว่าวันนี้ เป็น “วันชาติของไทย” อีกด้วย



            โดยทั่วไป “วันชาติ” มักจะหมายถึง วันเฉลิมฉลองที่ประเทศนั้นๆได้รับอิสรภาพ เป็นเอกราช หรือเป็นวันสถาปนาประเทศ รัฐ ราชวงศ์ วันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ วันเกิดประมุขของรัฐ หรืออาจจะเป็นวันที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อื่นๆ แต่มักจะถือเป็นวันหยุดประจำของชาติ ซึ่ง “วันชาติ” ของแต่ละประเทศจะเป็นวันใด ก็ขึ้นอยู่กับการกำหนดของประเทศนั้นๆ เช่น ประเทศโมร็อกโก ตรงกับวันที่ ๒ มีนาคม สหรัฐอเมริกา ตรงกับวันที่ 4 กรกฎาคม ฝรั่งเศสตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคม อินโดนีเซียตรงกับวันที่ 17 สิงหาคม บราซิลตรงกับวันที่ 7 กันยายน และเคนย่าตรงกับวันที่ 12 ธันวาคม เป็นต้น



            “วันชาติ” ของประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีเพียงวันเดียว แต่ก็มีบางประเทศเช่นกันที่มี “วันชาติ” มากกว่าหนึ่งวัน ทั้งนี้เพราะประเทศนั้นๆ อาจจะนับวันที่ได้รับเอกราชหรือวันที่ปลดแอกจากการเป็นอาณานิคม และวันที่มีการสถาปนาการปกครองขึ้นใหม่ ซึ่งอาจจะมิใช่วันเดียวกัน แต่เป็นวันสำคัญเสมือนวันชาติเท่าๆกัน เช่น ประเทศปากีสถาน จะมีวันชาติตรงกับวันที่ 23 มีนาคม ที่เขาเรียกว่า “Republic Day” และวันที่ 14 สิงหาคม เป็น “Independence Day” ส่วนฮังการี ก็มีถึง 3 วันคือ วันที่ 15 มีนาคม 20 สิงหาคม และ 23 ตุลาคม สำหรับจีน นอกจากจะมีวันชาติตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม แล้ว ที่ฮ่องกง อันเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน ที่มีขึ้นหลังจากอังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้จีนก็มีการเฉลิมฉลองวันที่ตรงกับวัน สถาปนาการปกครองพิเศษนี้ขึ้น ในวันที่ 1 กรกฎาคม อีกด้วย



            สำหรับ ประเทศไทย เราเคยได้มีการกำหนดให้วันที่ 24 มิถุนายน เป็น “วันชาติ”ของไทย ด้วยถือว่าวันที่ 24 มิถุนายน 2475 เป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองในระบอบรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย โดยได้มี ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง “วันชาติ” ลงวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 โดย พ.อ.พหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น และได้มีการเฉลิมฉลองวันชาติ 24 มิถุนายน ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2482 ในสมัยจอมพลป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี




            วันที่ 24 มิถุนายน เป็น “วันชาติ” ของไทยอยู่นานถึง 21 ปี ครั้น วันที่ 21 พฤษภาคม 2503 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้มี ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่ง เรื่อง ให้ถือวันพระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย โดยให้เหตุผลว่า กลอนวันพ่อ



            ด้วยคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นว่า ตามที่ได้กำหนดให้มีการเฉลิมฉลองวันชาติไทยในวันที่ 24 มิถุนายน นั้น ได้ปรากฏในภายหลังว่า มีข้อที่ไม่เหมาะสมหลายประการ ในด้านประชาชนและหนังสือพิมพ์ก็ได้เสนอแนะให้พิจารณาในเรื่องนี้หลายครั้ง หลายคราว คณะรัฐมนตรีจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นพิจารณา โดยมีพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน



            คณะกรรมการนี้ได้พิจารณาแล้ว เสนอความเห็นว่า ประเทศต่างๆได้เลือกถือวันใดวันหนึ่งที่มีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับชนในชาติ ต่างๆกัน โดยถือเอาวันประกาศเอกราช วันอิสรภาพ วันตั้งถิ่นฐาน วันสาธารณรัฐ วันสถาปนาพระราชวงศ์บ้าง ซึ่งไม่เหมือนกัน แต่ประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ โดยทั่วไปนั้น ได้ถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติ เช่น ประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน ญี่ปุ่น ฯลฯ เป็นต้น แม้ประเทศไทยเราเองก็ได้ถือเอาวันพระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทยมา แล้ว เพิ่งจะมากำหนดเอาวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติ เพิ่มขึ้นอีกวันหนึ่งในระยะหลังนี้เอง



            คณะกรรมการจึงมีความเห็นว่า เพื่อให้เป็นไปตามขนบประเพณีของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเป็นหลักการสมัครสมานสามัคคีรวมจิตใจของบุคคลในชาติโดยทั่วกัน จึงสมควรจะถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย ต่อไป โดยยกเลิกวันชาติ ในวันที่ 24 มิถุนายนเสีย




            ดังนั้น นับแต่ปี พ.ศ. 2503 ประเทศไทยจึงได้ถือเอาวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็น “วันชาติ” ของไทย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา




            ตามปกติ การจัดงาน “วันชาติ” ของประเทศต่างๆก็จะมีกิจกรรมและรูปแบบแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่ก็มักจะมีการกล่าวสุนทรพจน์ การจัดขบวนพาเหรดเฉลิมฉลอง การจุดพลุดอกไม้ไฟอย่างเอิกเกริก รวมไปถึงการแสดงมหรสพต่างๆ เป็นต้น แต่ในประเทศไทย เนื่องจากวันชาติ เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา และวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งมีกิจกรรมเฉลิมฉลองอยู่แล้ว กอปรกับประเทศไทยยังไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใครมาก่อน และคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็คุ้นชินกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างที่เห็น กันอยู่ปัจจุบัน



            ดังนั้น “วันชาติ” ของเราจึงดูเหมือนไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าใดนัก เพราะชาวไทยทุกหมู่เหล่าล้วนตัองการจัดกิจกรรมเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พ่อหลวงของแผ่นดิน” มากกว่าประเด็นอื่น อย่างไรก็ดี หากเราจะระลึกว่าวันนี้ ก็เป็น “วันชาติ”ของไทยด้วย แล้วจัดกิจกรรมต่างๆที่จะแสดงให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อ “ประเทศชาติ” ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ และความเสียสละมาอย่างยาวนานเช่นไร ก็อาจจะทำให้ วันนี้ มีความหมายครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น



    ดอกพุทธรักษา

    ดอกพุทธรักษา สัญลักษณ์วันพ่อแห่งชาติ


            ดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันพ่อแห่งชาติ คือ ดอกพุทธรักษา มีสีเหลืองเด่น เป็นสีของวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีความหมายคือ ความสงบสุขร่วมเย็น การปกป้องคุ้มครอง แสดงถึงความรักและเคารพบูชาพ่อ ที่คอยปกป้องครอบครัว โดยมีความเชื่อว่า หากบ้านใดปลูกต้นนนพุทธรักษาไว้ จะช่วยปกป้องคุ้มครองอันตรายแก่บ้าน และที่อยู่อาศัยได้




    กลอนวันพ่อ



    บทอาศิรวาท เฉลิมพระชนมพรรษา มหาราชา "ภูมิพล ฯ"


    "เฉลิมพระชนม์ เฉลิมชัย ชโยฤกษ์

    บายศรีเบิก ฟ้าสีทอง ผ่องเวหน

    พระบุญญา พระบารมี พระฯภูมิพล

    เกริกสกล ภูมิแผ่นดิน ภิญโญไทย



    ธ ทรงมี ทศพิธ ราชธรรม

    โครงการล้ำ เชิดชูชาติ ศาสน์ไสว

    อิสริยยศ คิงออฟคิง เพริศพริ้งไกล

    งามวิไล ราชกิจ พิศอัศจรรย์



    อัญเชิญชัย พระไตรรัตน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์

    เทพนิมิต ราชประสงค์ ทรงเสกสรรค์

    จตุรพิธ พรประเสริฐ เลิศอนันต์

    นิจนิรันดร์ ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ"




    กลอนวันพ่อ






    กลอนวันพ่อ





    บทอาศิรวาท เฉลิมพระชนมพรรษา มหาราชา "ภูมิพล ฯ"


    "เฉลิมพระชนม์ เฉลิมชัย ชโยฤกษ์

    บายศรีเบิก ฟ้าสีทอง ผ่องเวหน

    พระบุญญา พระบารมี พระฯภูมิพล

    เกริกสกล ภูมิแผ่นดิน ภิญโญไทย

    ธ ทรงมี ทศพิธ ราชธรรม

    โครงการล้ำ เชิดชูชาติ ศาสน์ไสว

    อิสริยยศ คิงออฟคิง เพริศพริ้งไกล

    งามวิไล ราชกิจ พิศอัศจรรย์

    อัญเชิญชัย พระไตรรัตน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์

    เทพนิมิต ราชประสงค์ ทรงเสกสรรค์

    จตุรพิธ พรประเสริฐ เลิศอนันต์

    นิจนิรันดร์ ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ"


    วารี ไตรเพิ่ม ผู้ประพันธ์กลอนวันพ่อ

    1ธ.ค.53


    ----------------------------------------------------------------------------------------




    กลอนวันพ่อ


    "สรวมชีพ น้อมเกศา ข้าพระบาท

    อาศิรวาท จอมบดินทร์ ปิ่นเกศี

    เฉลิมพระชนม์ พระฯภูมิพล นฤบดี

    พระบารมี ยิ่งบุญญา เฟื่องฟ้าไกล

    กอปรอาเกียรณ์ ราชกิจ ผลิตโครงการ

    พรหมสร้างสาน ปราชญ์คู่หล้า ฟ้าสดใส

    ทศพิธ ราชธรรม ธำรงไทย

    เลื่องลือไป ทั่วหล้า น่าอัศจรรย์

    ขอเทพไท ไตรรัตน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์

    นฤมิต พรพราวพร่าง สร้างสุขสันต์

    ธ ประสงค์ ลุประสงค์ มงคลพลัน

    ภักดีมั่น ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ"



    วารี ไตรเพิ่ม (ประพันธ์กลอนวันพ่อ)

    1 ธ.ค. 53


    ----------------------------------------------------------------------------------------




    กลอนวันพ่อ





    "ลุที่ห้า ธันวา มหาฤกษ์

    บายศรีเบิก แผ่นฟ้า เวหาหน

    เฉลิมพระชนม์ พรรษา มหามงคล

    ร่วมกมล ถวายพระพร บวรชัย

    ธ ทรงเป็น ยิ่งกว่า ราชาบดี

    ทรงเป็นศรี แห่งแผ่นดิน ภิญโญสมัย

    ธ ทรงงาน โครงการ สร้างสานไทย

    น้ำพระทัย พระเมตตา ล้ำบารมี

    ธ ทรงเป็น พลัง แห่งแผ่นดิน

    เลิศศาสตร์ศิลป์ พัฒนาไทย ไพศาลศรี

    ดังตะวัน จันทรา หล้าปฐพี

    เพชรมณี เฟื่องสยาม คามตำนาน

    อัญเชิญชัย ศรีไตรรัตน์ ประภัสสร์ผล

    ทวยเทพดล ราชวงศ์ เกษมศานต์

    จตุรพิธ พรพร่าง นานัปการ

    โลกขับขาน ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ"


    วารี ไตรเพิ่ม (ประพันธ์กลอนวันพ่อ)

    1 ธ.ค. 53





     *** ขอขอบคุณบทกลอนวันพ่อจาก คุณวารี ไตรเพิ่ม (บทกลอนที่นำมาเสนอได้รับอนุญาตจากผู้แต่งแล้ว) หากผู้ใดต้องการนำกลอนวันพ่อเหล่านี้ไปเผยแพร่ไม่ว่ากรณีใดๆ กรุณาติดต่อที่ feedback@sanook.com





    ----------------------------------------------------------------------------------------



    5 ธันวา ศุภฤกษ์เบิกฟ้างาม



    สัจจาภรณ์ ไวจรรยา poohkan(ผู้แต่งกลอนวันพ่อ



    ยอกรน้อมบังคมก้มกราบบาท

    มหาราชจอมบดินทร์ปิ่นสยาม

    "5 ธันวา" ศุภฤกษ์เบิกฟ้างาม

    ทุกเขตคาม แซ่ซ้องถวายชัย





    เฉลิมพระชนมพรรษามหาสวัสดิ์

    ขอเทพไท้ที่ป้องรัฐทุกสมัย

    น้อมปกปักพระพ่อหลวงของปวงไทย

    เปี่ยมพระพลานามัยไปชั่วกาล





    ด้วยพระมหาบารมีที่ล้นเกล้า

    ข้าพระพุทธเจ้าฯ ขอรองลาดพระบาทผ่าน

    ด้วยยึดดี...มิปล่อยใจใฝ่ทางมาร

    สมัครสมานและรู้อยู่พอเพียง





    ทีฆายุโก โหตุ มหาราช

    ไทยทั้งชาติ เปล่งประสานสุรเสียง

    “ทรงพระเจริญ” แม้หลากมากสำเนียง

    ต่างล้วนเคียงเพ่งจิตกราบถวายพระพร





    กษัตริย์ผู้ทรงพระราชกรณียกิจ

    มีลิขิตเพียงตำนาน...ในกาลก่อน

    ชาติที่กล่าวดังนั้น...คงสั่นคลอน

    ด้วยพระเกียรติก้องกำจร...องค์ภูมิพล





    พระมหากรุณาล้นฟ้ากว้าง

    เกินร้อยกรองสรรค์สร้างคำงามล้น

    "หนึ่งธุลี" ใต้ร่มฉัตรแห่งภูวดล

    น้อมกมลร้อยกรองถวาย “ทรงพระเจริญ”





    ----------------------------------------------------------------------------------------







    จากลูกสาวคนหนึ่ง…ส่งถึงพ่อ



    สัจจาภรณ์ ไวจรรยา poohkan(ผู้แต่งกลอนวันพ่อ



    จากลูกสาวคนหนึ่ง…ส่งถึงพ่อ

    เรียง “รัก” ทอร้อยถัก “ตัวอักษร”

    “ลูกรักพ่อ” แม้บอกฝากจากกาพย์กลอน

    “รัก” แน่นอน จากลูกมั่นลูกสัญญา





    อาจไม่ใช่คนที่ เป็น “ที่หนึ่ง”

    ไม่น่าทึ่ง-เก่งฉกาจ-มาดหรูหรา

    ไม่สวยเด่นดังเช่น “ดาว” พราวนภา

    แต่เชื่อว่าเป็น “คนดี” ที่ภูมิใจ





    ทุกถ้อย “พ่อ” เตือนย้ำยามยังเด็ก

    เจ้าตัวเล็กอาจเหมือนรั้นไม่หวั่นไหว

    แต่พ่อจ๋า...ที่ตรึงติดสนิทฤทัย

    จักอื่นใด “คำพ่อสอน” คือพรพรหม





    อุ่นอื่นหนอ จะอุ่นละมุนนัก

    เท่าอุ่นจาก “ไอรัก” อันเหมาะสม

    ชายอื่นหนอ จะ “รักลูก” ยามทุกข์ตรม

    ทั้งชีวิต “หวาน” – “ขม” พ่อห่วงใย





    ลูกของพ่อจะเดินทางอย่างเชื่อมั่น

    สู่ “ปลายฝัน” อนาคตอันสดใส

    แม้อุปสรรค์จะขวากขวางบนทางไกล

    “ลูกสาวพ่อ” จะก้าวไปไม่แคลนคลอน





    จากลูกสาวคนหนึ่ง…ส่งถึงพ่อ

    เรียง “รัก” ทอร้อยถัก “ตัวอักษร”

    พนมมือก้มน้อมราบกราบบิดร

    ด้วยบทกลอน ว่า “รักมั่นกตัญญู”









    ----------------------------------------------------------------------------------------









    กราบพ่อ



    สัจจาภรณ์ ไวจรรยา poohkan(ผู้แต่งกลอนวันพ่อ





    พนมมือกราบแนบ…แทบเท้าพ่อ

    ผู้สร้าง-ก่อกำเนิด เกิดสังขาร

    จากว่างเปล่า มีชีวิต จิตวิญญาณ

    มีเลือดเนื้อ ดุจปั้น รังสรรค์มา





    นึกถึงภาพวันเก่า...คราวยังเล็ก

    พ่ออุ้มเด็กตัวน้อยนั่งข้างบนบ่า

    พลางปลอบ...เจ้าอย่าหวั่นเลยขวัญตา

    สองมือใหญ่นี้หนา...จะประคอง





    หากมือแม่เป็นผ้าอุ่นละมุนนัก

    มือพ่อจักเป็นเกราะคลุมคุ้มภัยผอง

    หากลูกล้ม...เหนื่อยล้า...น้ำตานอง

    พ่อทั้งป้อง...ปลุกให้ลุกบุกบั่นไป





    อาจไม่เคยเอ่ยปาก “พ่อรักลูก”

    แต่พันผูกเกลียวรักมั่นไม่หวั่นไหว

    แววตาพ่ออาจไม่หวานซ่านฤทัย

    แต่แววตานี้ห่วงใย...ไม่เว้นวัน





    แม้หลอมรวมสามภพจบทั่วหล้า

    อีกนภามหาสมุทรสุดเขตขันธ์

    หรือจักรวาลที่วัดว่าค่าเป็นอนันต์

    จะเทียมทันเทียบพ่อได้...นั้นไม่มี





    “พ่อ” คือ “พรหม” คือ “พระ” คุ้มอุ้มชีวิต

    ลูกน้อมจิตกราบประนมก้มเกศี

    เรียงอักษรเป็นกลอน...ร้อยแทนถ้อยวจี

    ว่าลูกนี้ “รักพ่อ” ขอบูชา






      


     



    ร่วมกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ กับ Sanook!





    (หมดเขต 31 ธันวาคม 2555 นี้)







    เรื่องน่ารู้อื่นๆ เกี่ยวกับวันพ่อแห่งชาติ




    รวมเพลงวันพ่อ
















    ครีมหน้าใส” อื่นๆ :ครีมสาหร่ายครีมนมข้าวครีมน้ำนมข้าวครีมกันแดดซิลิโคน,ครีมหน้าใสเซรั่ม ขาว ใส ยกกระชับครีมตัวขาวครีม เซรั่ม ใต้ตาเจล หน้าใส ยกกระชับ ปรับผิวขาว, สบู่หน้าใสครีม เซรั่ม เจล ลดสิว,บรรจุภัณฑ์สติกเกอร์ โลโก้ ครีมหน้าใสผิวขาว , ครีมหน้าขาว ,ครีมมะหาดครีมนมผึ้งครีมน้ำนมผึ้ง


    กด Link(ถูกใจ) หน้า page ครีมสาหร่าย สีเข้ม สอบถามอัพเดตข่าวสาร ได้ที่ หน้า page นี้เลยนะค่ะ




    พริตตี้ มอเตอร์โชว์ 2012 ----> ผู้สนับสนุนครีมสาหร่าย ครีมหน้าใส